ขอบคุณความบังเอิญที่ไม่บังเอิญ (Nothing is Coincidence , Everything has Consequences)
ขอบคุณ“ความบังเอิญ
ที่ไม่บังเอิญ”
(Nothing is Coincidence, Everything has Consequences)
ขึ้นต้นแบบนี้
มีประเด็นที่อยากเขียนแน่นอน และนับได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่หลาย ๆ
คนได้พบเจอเป็นประจำ
“ความบังเอิญ
ที่ไม่บังเอิญ หรือไม่มีความบังเอิญในโลกใบนี้”
เหตุการณ์เกิดจากวันอาทิตย์ที่
31
กรกฎาคม 2565 เริ่มจากตั้งใจไปสักการะบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
ที่วัดระฆังโฆษิตาราม และตั้งใจไปหาที่นั่งทางอาหารแถววังหลัง
โดยปกติเป็นคนที่เดินเล่นท่าวังหลังอยู่บ้าง
แต่ไม่ได้ไปบ่อยนัก ในใจลึก ๆ คิดว่าบริเวณแถวนี้น่าจะมีร้านอาหารเล็ก ๆ น่ารัก ๆ
ริมน้ำที่ดูเหมาะกับสไตล์เราชอบ แต่ทำไมแต่ก่อนเดินผ่านไป ผ่านมาก็ไม่รู้สึกเจอร้านที่โดนใจสักที
จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ตั้งจิตว่าจะมาสักการะหลวงพ่อโต และขอแวะกินข้าวสักหน่อยระหว่างเดินทางกลับ
สายตาก็มองหาร้านไปเรื่อยว่าร้านไหนดี
แล้วก็เหลือบไปเห็นป้ายการ์ตูน ร้าน ย.ยักษ์กินผัก ตั้งอยู่ปากซอย (หลายคนอาจรู้จักมาแล้ว
แต่เราเพิ่งรู้จักวันนั้นจริง ๆ)
ความคิดในหัวตอนนั้นคือ
“อุ้ย!! ทำไมตั้งชื่อร้านเจ๋งจัง
ตัวการ์ตูนก็น่ารัก เมนูก็น่าทาน”
รู้สึกเหมือนโดนดึงดูดเพราะ
โดนอินเนอร์เต็ม ๆ ทำให้อยากรู้อยากเห็นว่าร้านเป็นแบบไหนจึงเดินเข้ามาสำรวจดูสักหน่อย
ว่าจะเป็นอย่างที่ตั้งสันนิษฐานไว้หรือไม่ และพบว่า ร้านตกแต่งน่ารักเหมือนชื่อและตัวการ์ตูนจริงด้วย
บรรยากาศดี และมีโต๊ะนั่งริมน้ำ เมนูน่าสนใจบวกกับราคาอาหารก็สมเหตุสมผล
ตอนเราเข้าร้านเป็นช่วงที่มีโต๊ะริมน้ำว่าง
1
ที่พอดี จึงทำให้ได้ถ่ายรูปตัวเองในมุมเจ๋ง
ๆ ไปอีก รู้สึกดีอะ ขอบคุณความบังเอิญ ที่ไม่บังเอิญ นี้นะเนี่ย
เขียนมาตั้งเยอะ รู้มั้ยว่าประทับใจอะไรที่สุด จริง ๆ เราชอบหลายอย่างนะ แต่ที่สุดของวันนั้นคือ เราชอบโลโก้ร้านที่เป็นลายเส้นยักษ์ที่สุด เรารู้สึกถูกดึงดูดมาก ๆ ชอบตั้งแต่ชื่อร้าน บวกกับโลโก้ด้วยแล้ว เราว่ามีความเข้ากันได้ดี เราถามเจ้าของร้านเขาบอกว่า เป็นโลโก้ร้านอันแรก เราว่าโลโก้นี้แสดงอะไรหลายอย่างนะ เราชอบฝีมือ เราชอบพลังงานลายเส้น เราชอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เราชอบแนวคิด และความมีสไตล์ของตัวเอง เราว่าครบและสมบูรณ์ในแบบที่เราชอบ รู้สึกเจ๋งอะ+++ เราว่าคนออกแบบแนวคิด และคนเขียนไม่ธรรมดา ขอชมผ่านเฟซบุ๊กหน่อย
เราเข้าใจว่าเวลาคนเสพงานศิลป์
แล้วชอบมาก ๆ เป็นยังไง แล้วเราชื่นชมมากเลยนะ ที่แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน มันทำให้งานศิลป์ในทุก ๆ งานมีเอกลักษณ์ และมีคุณค่าตามสไตล์ของแต่ละคน
มันอิสระดี คือเป็นความสวยงามในรูปแบบเฉพาะที่มีสไตล์และแตกต่างอย่างมีอัตลักษณ์
ท้ายสุดเราอยากบอกว่า
เรื่องราวทุกเรื่องราว ผู้คนทุกผู้คน เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทุกคนพบเจอ
จะมองว่าเป็นความบังเอิญ ความบังเอิญที่ไม่บังเอิญ หรือ ไม่มีความบังเอิญบนโลกใบนี้
ขึ้นอยู่กับการตีความตามแบบฉบับของมุมมองแต่ละคน
ไม่มีอะไรถูก อะไรผิดบนโลกสมมุติ
ประเด็นอยู่ที่ว่า
เรื่องที่เรามองว่าบังเอิญ หรือไม่บังเอิญนั้น เขาต้องการสื่อสารอะไรให้เราทราบ และเราได้เรียนรู้กับสิ่งที่สื่อสารต่าง ๆ
บนโลกแห่งสมมุตินี้อย่างไร ?
สำหรับผู้เขียน อย่างนึงสิ่งที่เรียนรู้ ต้องฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ณ ช่วงเวลานี้ คือ การฝึกทางสายกลาง และฝึกละนันทิกับความเพลิน และยังคงมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาตนต่อไป
ขอขอบพระคุณครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน ทุกคนในทุกบริบท ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาบนโลกมนุษย์ให้ฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับจิดใจ และปัญญา เพื่อพัฒนาตนให้ตื่นรู้ตามลำดับขั้น ๆ ต่อไป
C.KoongKhemigka
-Simple
Today-
4 สิงหาคม 2565
หมายเหตุ : สำหรับใครต้องการหาเพื่อนร่วมทางในการนำพาเข้าสู่การค้นพบคำตอบอย่างไว้ใจ
และนำพาเราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการอย่างสอดคล้องและเป็นเนื้อแท้ สอบถามมาได้ที่ช่องทางข้างล่างนี้ค่ะ
C.KoongKhemigka
ACSTH Coach
(Leadership & Enneagram), Practitioner NLP&TLT Coach,
Trainer , and
Inspiration Writer.
Training
and Coaching Program :
Better
Life from Inner Growth
Contact
:
Line
OA : https://lin.ee/SDUfKJK
E-mail
: simpletoday23@gmail.com
ติดตามอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่:
https://khemigka.blogspot.com/2022/08/nothing-is-coincidence-everything-
has.htmlhttps://khemigka.blogspot.com/
#Enneagram #LifeCoach
#Trainer
#ConnectingTheInnerGrowth
#NothingIsCoincidence
#EverythingHasConsequences
#BetterLifefromInnerGrowth
#SimpleToday
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น