การสร้างพลังให้ตัวเองและผู้อื่น (Shift your energy)
Shift your life, shift your energy.
- Khemigka-
“อยากยกระดับชีวิต...เพิ่มระดับพลังงาน
อยากลดระดับชีวิต...ลดระดับพลังงาน”
หากถามว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมให้มนุษย์แต่ละคนก้าวไปข้างหน้า
หรือก้าวถอยหลัง ในมุมมองของผู้เขียนคิดว่าปัจจัยที่สำคัญส่วนหนึ่งคือระดับพลังงาน
ผู้เขียนขอแบ่งพลังงานในการขับเคลื่อนชีวิตเป็น
2
แบบ คือ
1. พลังงานด้านบวก
2. พลังงานด้านลบ
และระดับพลังงานที่แตกต่างกันไม่ว่าจะระดับพลังงานด้านบวกหรือระดับพลังงานด้านลบ
จะกลายเป็นตัวชี้วัดระดับพลังงานในการขับเคลื่อนชีวิตของมนุษย์ให้แตกต่างกัน
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดขึ้นว่าระดับพลังงานด้านบวก
และด้านลบเป็นอย่างไร และจะส่งผลกระทบอย่างไรได้บ้าง
พลังงานด้านบวก
หมายถึง
พลังความคิดที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนให้เรามุ่งสู่ผลลัพธ์ในด้านบวก
หรือใกล้กับเป้าหมายที่เราได้วางไว้
เป็นพลังความคิดและคำพูดที่เราใช้กระตุ้นให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้า เป็นพลังที่ส่งเสริมให้เรามีสุขภาพทางกาย
ทางจิตใจที่แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งท้ายสุดจะทำให้เรามีพลังชีวิตที่ดีขึ้น
พลังงานด้านลบ
หมายถึง
พลังความคิดที่ฉุดการขับเคลื่อนไม่ให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่เราวางไว้
เปรียบเสมือนเสียงลบที่ฉุดรั้งไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้า หรือในอีกมุมหนึ่งผู้เขียนขอเรียกว่าเป็นความกลัว
และกิเลส ที่นำสู่ข้ออ้าง ความมีอคติ หรือความลำเอียง
อันเป็นบ่อเกิดให้เราไม่สามารถเข้าใจเหตุผล และความเป็นจริงได้อย่างถ่องแท้
ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด และส่งผลให้เราห่างไกลจากผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้
ซึ่งหากเรามีพลังงานด้านลบมากนั้นจะส่งผลให้สุขภาพทางกาย และทางจิตใจถดถอยลง
และท้ายสุดทำให้เรามีพลังชีวิตที่ถดถอยลงได้เช่นกัน
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างวิธีการสร้างพลังงานด้านบวกให้กับตัวเองในมุมมองของผู้เขียน
8
ข้อ ซึ่งผู้อ่านสามารถไปหาวิธีการสร้างพลังงานด้านบวกให้ตัวเองเพิ่มเติมอีกทีนะคะ
1. การคิดดีและพูดดีกับตัวเอง ให้ตัวเองรู้สึกถึงแรงกระตุ้น และพลังงานด้านบวกในการทำสิ่งต่าง
ๆ
2. การสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าตัวเองทำได้ หากยังไม่มั่นใจให้ค้นหาสาเหตุ
และวิธีเพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นนั้น เช่น การแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
การฝึกฝนมากขึ้น การทำอย่างต่อเนื่อง
3. การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
อาทิ เพื่อนที่ดี สังคมที่ดี บรรยากาศที่ดี สื่อที่ดี
4. การพัฒนาร่างกาย จิตใจ และปัญญาอยู่เสมอ นั่นหมายถึง การคัดเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ การทำจิตใจให้สงบ การหาความรู้ อ่านหนังสือ
เสพสื่อที่สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นประโยชน์
5. การทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ อาทิ
การวาดภาพ การเล่นดนตรี เล่นกีฬา อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ท่องเที่ยว ทำกับข้าว เข้ายิม
หรืออะไรก็ตาม ในมุมมองผู้เขียนคิดว่าการทำสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นการสร้างพลังงานด้านบวกได้อย่างดีทีเดียว ซึ่งเราจะสัมผัสความรู้สึกและได้พลังทันทีหลังจากเราได้ทำสิ่งที่ชอบเสร็จเรียบร้อย
6. การหาแบบอย่างที่ดีเป็นต้นแบบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวไปสู่เป้าหมายในแบบที่เราวางไว้
7. การลงมือทำ สิ่งนี้ผู้เขียนคิดว่าสำคัญมากเพราะถ้าคิดแล้วไม่ยอมลงมือทำสักที
เราจะไม่สามารถมั่นใจได้ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นจะสามารถทำให้เกิดผลสำเร็จได้จริงหรือไม่
- หากทำได้สำเร็จ
เราจะได้พลังในการก้าวต่อไปข้างหน้า
- หากทำไม่สำเร็จ
เราจะได้รับบทเรียนในการหาวิธีการใหม่ ๆ ถ้าไม่ท้อถอยและล้มเลิก
- แต่หากคิดแล้วไม่ลงมือทำอะไร
เราจะได้คำว่ารู้งี้ !! และโอกาสที่สูญเสียไป
8. ท้ายสุด คือการแบ่งปันสิ่งดี
ๆ รู้หรือไม่ว่า นอกจากการสร้างพลังงานด้านบวกให้กับตัวเองแล้ว
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจ และมีคุณค่ามากขึ้นได้นั้น คือการเห็นผู้คนได้สิ่งที่ดีและมีประโยชน์ด้วยเช่นกัน
และนั่นแหละคือการสร้างพลังงานทางบวกที่สำคัญ เพราะถ้าเราดี สังคมก็ดี และถ้าสังคมดี เราก็ดีด้วยเช่นกัน
“อยากให้พลังชีวิตเป็นแบบไหน เราก็สร้างพลังงานให้เป็นแบบนั้น
เพราะคงไม่มีใครสามารถช่วยสร้างพลังชีวิตของเราได้ นอกจากตัวเราเอง”
“อยากให้โลกของเราเป็นแบบไหน เราก็สร้างพลังงานให้เป็นแบบนั้น
เพราะคงไม่มีใครส่งต่อพลังงานกันได้ นอกจากมนุษย์ด้วยกันเอง”
-Simple Today-
23 กันยายน 2562
“The secret of change is to focus all of your energy, not on fighting the old, but on building the new.”
-
Socrates -
#SimpleToday
#BeReal,BeYou
เครดิตภาพเบื้องหลังคำคม :
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น